เกิดจลาจลในคุกเวเนฯดับกว่า50

เกิดจลาจลในคุกเวเนฯดับกว่า50
                     26 ม.ค.56 สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เกิดเหตุจลาจลภายในเรือนจำ "เซ็นโทร อ็อกซิเด็นทัล" หรือ  "ยูริบานา" ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเวเนซุเอลา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังมีข่าวว่าจะจะมีการตรวจสอบเพื่อยึดอาวุธของเรือนจำ จนทำให้มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 ราย เจ็บอีกหลายสิบคน นับเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงล่าสุดสำหรับสภาพคุกที่แออัดในประเทศ ด้านไอริส วาเรลลา รัฐมนตรีกระทรวงกิจการเรือนจำยังไม่ได้ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ชัดเจน โดยกระทรวงจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งวันนี้พร้อมรายละเอียด                      การจราจลเริ่มขึ้นเมื่อสื่อท้องถื่นเผยแพร่ภาพทหารถูกส่งไปที่เรือนจำยูริบานา ในเมืองบาร์กีซีเมโต ในรัฐลารา เพื่อตรวจค้นห้องขังเพื่อค้นหาอาวุธ ยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ทำให้นักโทษจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจจนกลายเป็นการก่อเหตุความไม่สงบ ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการถูกยิง                      เรือนจำในเวเนซูเอลาถูกควบคุมโดยกลุ่มแก๊งค์มีอาวุธที่มักจะก่อเหตุจราจลหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากข้อขัดแย้งกับผู้คุมเรือนจำหรือหัวหน้าเรือนจำ                      นายเฮ็นริค คาปริเลส ผู้นำพรรคฝ่ายค้านทวีตข้อความต่อว่ารัฐบาลทันทีว่า ใครจะเป็นคนรับผิดต่อการสังหารหมู่ครั้งใหม่ของเรือนจำในของประเทศเรา รัฐบาลทั้งไร้ความสามารถและไม่มีความรับผิดชอบ                      เรือนจำ 34 แห่งในประเทศทางแถบอเมริกาใต้ถูกออกแบบเพื่อรองรับผู้ต้องขังราว 1/3 ของจำนวนผู้ต้องขัง 50,000 ราย นักโทษส่วนใหญ่มักมีอาวุธและหลายร้อยคนถูกฆ่าตายแต่ละปีทั้งจาการจราจลหรือการทะเลาะวิวาทของแก๊งค์ต่างๆ เมื่อปี 2554 มีการเข้าล้อมเรือนจำ "เอล โรดิโอ" นอกกรุงคารากัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ก่อนที่ทหารจำนวน 5,000 นาย จะต้องเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์   อิรักปะทะเดือด! ตาย 5 เจ็บกว่า 60 คน                        เหตุรุนแรงเกิดขึ้นใกล้เมืองฟาล์ลูจาห์ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่มั่นของกลุ่มอัลไกด้า ที่อยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกราว 65 กิโลเมตร เมื่อวานนี้ จากกลุ่มคนที่ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล                      เหตุปะทะเริ่มต้นขึ้น เมื่อกองกำลังทหาร ห้ามปรามผู้คนไม่ให้เข้าไปร่วมกับการประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล และก่อเหตุประท้วง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังเข้าปราบ จนเป็นเหตุให้มีกลุ่มผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย เจ็บอีกกว่า 60 คน โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า มือปืนได้ยิงโจมตีกองกำลังที่จุดตรวจ สังหารทหาร 2 นาย และมียานพาหนะของกองทัพอย่างน้อย 1 คน ถูกจุดชนวนระเบิดขึ้น อีกทั้งมือปืนหลาย 10 คน ได้เข้าครอบครองถนนสายหนึ่ง พร้อมทั้งเริ่มขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะต้องประกาศเคอร์ฟิวในเมืองที่เกิดเหตุ และต้องยิงกระสุนขึ้นฟ้า เพื่อหวังให้เหตุรุนแรงสงบลง และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งนับเป็นการประท้วงที่รุนแรง และเป็นการสูญเสียเลือดเนื้อจากการประท้วงครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ หลังเกิดเหตุครั้งล่าสุดในกรุงแบกแดด                      จากเหตุการณ์ปะทะครั้งล่าสุดนี้ ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลว่า การสูญเสียที่เกิดขึ้นจะสร้างความตึงเครียดระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงนิกายซุนนี และรัฐบาลที่นำโดยนิกายชีอะห์ เพิ่มมากขึ้นไปอีก                      กลุ่มผู้ประท้วง ไม่พอใจการปกครองของรัฐบาล ที่มองชาวนิกายซุนนี ว่าเป็นกลุ่มชนชั้น 2 ของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีโนรี มาลิกิ ซึ่งเป็นชาวนิกายชีอะห์ ลาออก