Thursday, January 17, 2013

กลุ่มติดอาวุธอัลจีเรียจับ41ตัวประกัน

กลุ่มติดอาวุธอัลจีเรียจับ41ตัวประกัน
              ผลพวงจากสถานการณ์ไม่สงบในประเทศมาลี ในแอฟริกาตะวันตก ลามข้ามชายแดนไปยังเพื่อนบ้านแอลจีเรีย เมื่อเกิดเหตุกองกำลังติดอาวุธอิสลาม บุกโรงกลั่นน้ำมันทางตะวันออกของประเทศ และจับตัวประกันหลายเชื้อชาติ เมื่อคืนวันพุธ (16 ม.ค.) โดยอ้างเหตุผลว่า ลงมือครั้งนี้เพื่อตอบโต้ที่ฝรั่งเศสส่งทหารเข้าไปกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศมาลี อดีตอาณานิคมของฝรั่งเศส  ที่สุดรัฐบาลแอลจีเรียตัดสินใจใช้กำลัง เป็นเหตุให้ตัวประกันและคนร้ายเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย                  เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณโรงกลั่นน้ำมันทิกันทูรีน ห่างประมาณ 25 กิโลเมตรจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอินอามีนาส ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนลิเบีย และห่างจากกรุงแอลเจียร์ เมืองหลวงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 1,300 กิโลเมตร ทหารรัฐบาลแอลจีเรียตรึงกำลังรอบโรงกลั่นน้ำมันอยู่นาน หลังจากกลุ่มติดอาวุธจำนวนหนึ่งบุกจับตัวประกัน เป็นคนงานท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ซึ่งไม่ทราบจำนวนแน่นอน                  รัฐบาลแอลจีเรียระบุว่า มีคนงานต่างชาติ 20 คน ส่วนบริษัทบีพี ซึ่งบริหารโรงกลั่นน้ำมันร่วมกับบริษัทน้ำมันของทางการแอลจีเรียและบริษัทน้ำมันจากนอร์เวย์ ออกแถลงการณ์ยืนยันในวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคมว่า มีพนักงานถูกจับเป็นตัวประกัน แต่จะไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ                  ขณะโฆษกคนหนึ่งของกลุ่มติดอาวุธ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า มีตัวประกันต่างชาติทั้งสิ้น 41 คน จากหลายประเทศ ได้แก่ นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โรมาเนีย โคลัมเบีย ไทย ฟิลิปปินส์ ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาร์เมเนีย                          ที่กรุงเทพฯ นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงได้ตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูต ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งดูแลประเทศแอลจีเรียในเบื้องต้น ได้รับแจ้งว่าสถานทูตกำลังอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบข้อมูลจากทางการแอลจีเรียอยู่ เนื่องจากไทยไม่มีสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ในแอลจีเรีย                        ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตได้ตรวจสอบข้อมูลกับ ปตท.สผ. ซึ่งได้ไปลงทุนขุดเจาะน้ำมันในแอลจีเรียได้รับแจ้งว่า ในฐานขุดเจาะของปตท.สผ.มีคนไทยทำงานอยู่ประมาณ 70 คน แต่เป็นคนละแห่งกับที่กลุ่มกบฏได้จับตัวประกันอยู่ ขณะที่คนไทยในแอลจีเรียมีอยู่ราว 370 คน นอกจากที่ทำงานในฐานขุดเจาะแล้วยังทำงานกับบริษัทโตโยต้า งานก่อสร้าง และแต่งงานกับชาวแอลจีเรีย                                        ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำตามเวลาในประเทศไทย สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา และสำนักข่าวเอกชนในประเทศเพื่อนบ้านมอริทาเรีย รายงานว่า กองกำลังแอลจีเรียตัดสินใจใช้กำลังยุติสถานการณ์โดยโจมตีทางอากาศ เป็นเหตุให้ตัวประกันเสียชีวิต 34 คน และคนร้ายเสียชีวิต 15 คน แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันอย่างเป็นทางการ                                        นายดาโฮ คาเบลีย รัฐมนตรีมหาดไทยแอลจีเรีย กล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธ เป็นชาวแอลจีเรีย ปฏิบัติการตามคำสั่งของนายม็อคตาร์ เบลม็อคตาร์ ผู้บัญชาการระดับสูงของอัล-ไกดาในมาเกร็บอิสลาม (เอคิวไอเอ็ม) ขณะที่กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ซิกเนทอรีส์ ฟอร์ บลัด ก็ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการจับตัวประกันเพื่อตอบโต้ฝรั่งเศสที่บุกมาลี และเพื่อสั่งสอนผู้นำแอลจีเรียที่ยอมให้ฝรั่งเศสใช้น่านฟ้า                                กลุ่มก่อการร้ายเริ่มจากการลงมือโจมตีรถบัสบรรทุกคนงานเมื่อเช้ามืดวันพุธ ก่อนถูกตำรวจตอบโต้ ผลจากการยิงต่อสู้ ทำให้ชาวอังกฤษและแอลจีเรียเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน หลังจากนั้นกลุมติดอาวุธขับรถไปยังบ้านพักคนงานโรงกลั่นน้ำมันเพื่อจับตัวประกัน                          กลุ่มติดอาวุธยื่นข้อเรียกร้องให้ฝรั่งเศสถอนกำลังออกจากมาลี  ปล่อยสมาชิกหัวรุนแรงเพื่อแลกกับตัวประกัน ตลอดจนต้องการให้แอลจีเรียสั่งถอนทหารออกไปเพื่อเปิดทางเจรจาต่อรอง นายดาโฮ คาเบลีย รัฐมนตรีมหาดไทยแอลจีเรีย กล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธยังต้องการจะเดินทางออกจากประเทศพร้อมกับตัวประกันด้วย แต่รัฐบาลปฏิเสธเจรจาต่อรองใดๆ                           สำหรับสาธารณรัฐมาลี ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา เคยเป็นดินแดนในการปกครองของฝรั่งเศสและได้รับเอกราชใน พ.ศ.2503 ในฐานะสหพันธรัฐมาลี ที่มีหลังการปกครองแบบพรรคเดียวอันยาวนาน จนเกิดการรัฐประหารในปี 2534 ทำให้เกิดการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการสถาปนามาลีเป็นรัฐประชาธิปไตยระบบหลายพรรค                 ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2555 กลุ่มนายทหารอ่อนอาวุโสยึดการควบคุมทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศและประกาศยุบรัฐบาลและยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่  ขบวนการปลดปล่อยแห่งชาติอาซาวัด (เอ็มเอ็นแอลเอ) ที่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มเอ็มคิวไอเอ็มที่ก่อเหตุในแอลจีเรีย ฉวยโอกาสบ้านเมืองวุ่นวาย รุกคืบไล่ยึดเมืองทางเหนือ และเตรียมประกาศรัฐอิสระแยกจากมาลี ทำให้รัฐบาลชั่วคราวมาลี ร้องขอความช่วยเหลือจากฝรั่งเศสและนานาชาติ                       ฝรั่งเศสเริ่มโจมตีกลุ่มกบฏมาลีทางอากาศตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 มกราคม เพื่อช่วยรัฐบาลมาลียึดคืนดินแดนทางภาคเหนือ ขณะนี้ ทหารฝรั่งเศสยังร่วมต่อสู้ทางภาคพื้นดินด้วย และจะส่งทหารเข้าไปเพิ่มจนมีกำลังทหารราว 2,500 นายในเร็วๆนี้ และอีกหลายชาติในแอฟริกาสัญญาว่าจะส่งทหารไปมาลีเพื่อร่วมกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงด้วยเช่นกัน                 -------------------- (หมายเหตุ : ภาพแฟ้มข่าว : AFP , EPA)      

No comments:

Post a Comment

Blog Archive