Tuesday, January 22, 2013

โอบามาสาบานตนสมัย2

โอบามาสาบานตนสมัย2
                          22 ม.ค. 56  โอบามา ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 ที่บริเวณบันไดหน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวาน ท่ามกลางสายตาฝูงชนราว 8 แสนคนที่เนืองแน่นบริเวณเนชันแนลมอลล์ และมีผู้ชมการถ่ายทอดทางโทรทัศน์อีกหลายสิบล้านคน โดยเป็นการทำพิธีรอบสอง หลังสาบานตนอย่างเรียบง่ายเป็นการส่วนตัวในทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ และครั้งนี้เขากล่าวปฏิญาณ 35 คำต่อหน้าประธานศาลฎีกา จอห์น โรเบิร์ตส์ เมื่อเวลาราว 11.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีนางมิเชล ภริยา ถือไบเบิลสองเล่มให้โอบามาวางมือระหว่างกล่าวคำสาบาน และมีลูกสาว 2 คน ร่วมเป็นสักขีพยานอย่างใกล้ชิด จากนั้นมีการยิงสลุต 21 นัด เพื่อให้เกียรติแก่ผู้นำ ถือเป็นการเริ่มต้นเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีวาระ 4 ปีของโอบามาอย่างเป็นทางการ                           จากนั้นโอบามา ได้กล่าวสุนทรพจน์ยาว 18 นาที กว่า 2,100 คำ ซึ่งสั้นกว่าสุนทรพจน์สมัยแรกราว 300 คำ โดยกล่าวแสดงวิสัยทัศน์สำหรับสิ่งที่จะทำในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยบอกว่าสงครามใกล้สิ้นสุดลง เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และความเป็นไปได้ของอเมริกาไร้ขีดจำกัด เราจะคว้าโอกาสไว้ได้ตราบใดที่เรายังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันสร้างความเสมอภาคเพื่อคนรักเพศเดียวกัน ผู้อพยพเข้าเมือง และผู้หญิง                           นอกจากนี้เขาบอกว่าประเทศชาติจะไม่ประสบความสำเร็จหากคนเพียงส่วนน้อยพยายามทำอย่างดีที่สุด ขณะที่คนจำนวนมากไม่ทำอะไรเลย และเราตระหนักดีว่าความมั่งคั่งของอเมริกาต้องพึ่งพาชนชั้นกลาง ขณะเดียวกันเขายังเรียกร้องให้เกิดเอกภาพหลังเผชิญความขัดแย้งในสภาคองเกรสตลอด 4 ปี โดยบอกว่าเวลานี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับเราแล้ว และเราไม่อาจปล่อยให้ล่าช้าอีกได้                           หลังกล่าวจบโอบามาหันหลังเดินกลับเข้าไปยังตัวอาคารรัฐสภา ก่อนหันกลับมามองฝูงชนอีกครั้ง และบอกว่า เขาอยากมองอีกครั้ง เพราะจะไม่มีโอกาสได้เห็นแบบนี้อีกแล้ว                           จากนั้นโอบามาและนางมิเชลไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสมาชิกสภาคองเกรส และลงนามในเอกสารเสนอชื่อรัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรีคลังและผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางคนใหม่ ที่คาดว่าจะต้องเผชิญเสียงคัดค้านอย่างหนักในการลงมติรับรองของวุฒิสภา ต่อมาทั้งคู่ได้ร่วมเดินขบวนพาเหรดไปตามถนนเพนซิลเวเนียไปยังทำเนียบขาว พร้อมกับรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และภริยา รวมทั้งร่วมชมวงโยธวาทิตและขบวนพาเหรด                           สุดท้ายทั้งโอบามาและภริรยาได้ไปร่วมงานบอลล์ฉลองการเข้ารับตำแหน่งที่ลดลงเหลือเพียง 2 แห่งจากเดิม 10 แห่ง เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยทั้งสองได้ร่วมเต้นรำในเพลง "Let's Stay Together" ของอัล กรีน ที่ขับร้องโดย เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ในงานที่ศูนย์ประชุมวอชิงตัน                           และหลังการฉลองเสร็จสิ้นลง เขาจะต้องเริ่มลุยงานท้าทายหลายเรื่องโดยเฉพาะหนี้สาธารณะที่พุ่งทะลุเพดานและคาดว่าจะต้องต่อสู้กับพรรครีพับลิกันอย่างหนักในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ และเขามีกำหนดแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา หรือสเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน ในวันที่ 12 ก.พ.นี้   ชุดของนางมิเชล และลูกสาวทั้งสองคน ถูกจับตามองตามคาด                             ขณะที่โอบามา ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก ในระหว่างกล่าวคำสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง โลกได้จับตาไปที่นางมิเชล สุภาพสตรีหมายเลข 1 และลูกสาวสองคนของเขาเช่นกัน โดยเฉพาะชุดที่พวกเธอสวมใส่มาร่วมงาน                           นางมิเชล เลือกสวมเสื้อโค้ทลายตารางของ ธอม บราวน์ ที่ทอขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเลียนแบบผ้าไหมที่ใช้ตัดเย็บเน็คไทให้ผู้ชาย 'ธอม บราวน์' มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักออกแบบเสื้อผ้าผู้ชาย และมักจะหาช่องทางเอาความงดงามในสไตล์ที่เป็นธรรมชาติแบบคลาสสิคของเสื้อผ้าผู้ชาย มาใส่ในเสื้อผ้าของผู้หญิง ทำให้ชุดของนางมิเชลงามสง่าแบบผู้หญิงผสมกับความเท่ของผู้ชาย                           ธอม บราวน์ บอกกับอิริค วิลสัน คอลัมนิสต์ของนิวยอร์ค ไทม์ส ว่า เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เขาแทบไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น เช่นเดียวกับเจ ครูว์ ที่บอกว่าภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย เพราะนอกจากชุดสวยของนางมิเชลจะถูกเติมเต็มด้วย สร้อยคอของเคธี่ วอเตอร์แมน แล้ว เธอยังสวมเข็มขัดและรองเท้าของเจ ครูว์ เมื่อพิธีสาบานตนและงานเฉลิมฉลองเสร็จสิ้่นลง ชุดและเครื่องประดับทั้งหมด จะถูกส่งไปเก็บที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ                           ส่วนชุดของสองลูกสาวหมายเลข 1 เมเลีย ลูกสาวคนโตสวมชุดของเจ ครูว์ ทั้งชุด ส่วนซาช่า น้องสาว สวมเสื้่อโค้ทและชุดผ้าไหมของเคท สเป้ด                           ชุดที่ทั้งสามคน สวมใส่เป็นเฉดใกล้เคียงกับที่พวกเธอสวมใส่ในพิธีสาบานตน เป็นการส่วนตัวเมื่อวันอาทิตย์ นางมิเชล สวมชุดสีน้ำเข้มปนดำ ของรี้ด คราคอฟฟ์ , เมเลีย สวมกระโปรงสีน้ำเงินอมม่วงของเอช แอนด์ เอ็ม ส่วนซาช่าสวมชุดลายสีชมพูด คาดเข็มขัดสีทอง                           นางมิเชลจะคอยชี้ชวนให้เมเลีย ลูกสาวคนโตดูบรรยากาศรอบตัวอยู่ตลอดเวลา เด็กสาวทั้งสองคน ต่างถือสมาร์ทโฟน ไอโฟน กันคนละเครื่อง และพวกเธอก็บันทึกภาพเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ด้วยตัวเองอีกด้วย   อาหารในงานเลี้ยงมีแคลอรีสูงกว่า 3 พันแคลอรี                             หนังสือพิมพ์วอชิงตัน ไทม์ส รายงานว่า งานเลี้่ยงเฉลิมฉลองพิธีสาบานตน มื้อกลางวัน ของประธานาธิบดีบารัก โอบามา และบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสส์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อุดมไปด้วยไปด้วยอาหารที่มีแคลอรี สูงเกินกว่า 3 พันแคลอรี                           เว็บไซต์ เฮลธี่ย์ ฟู้ด เรซิพี ดอท เน็ต ที่ติดตามเมนูอาหารหรูในงานเลี้ยงฉลองเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สองของประธานาธิบดีโอบามา ระบุว่า มีทั้งกุ้งล็อบสเตอร์ , เนื้อวัวไบซัน และพายแอปเปิล ที่ล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยแคลอรี และไม่น่าพอใจเมื่อเห็นเมนูที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเหล่านี้ ถูกเสิร์ฟในงานเลี้ยง ทั้งที่นางมิเชล สุภาพสตรีหมายเลข 1 เป็นผู้พยายามผลักดันให้คนอเมริกันหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ                           นางมิเชล เคยถูกตำหนิมาแล้ว เรื่องอาหารแคลอรีสูง ที่จัดเลี้ยงแบบรัฐพิธีที่ทำเนียบขาว ที่เธอเป็นเจ้าภาพก่อนหน้านี้ แต่บรรดานักโภชนาการกลับปล่อยผ่าน โดยบอกว่า ถ้าเป็นเรื่องของโอกาสพิเศษก็สามารถผ่อนผันกันได้                           พิธีสาบานตนถูกจัดขึ้นทุก 4 ปี และแน่นอนว่า อาหารที่จัดในงานเลี้ยงก็ต้องพิเศษสุดตามไปด้วย คอร์สแรก จะเป็นหางกุ้งล็อบสเตอร์ในซอสครีมหอยลาย นิว อิงแลนด์ คอร์สที่สอง จะเป็นเนื้อวัวไบซัน ราดซอสฮอสเรดิช กับมันฝรั่งแดง ตามด้วยพายแอปเปิล กับไอศกรีม                           เชฟที่โชว์ฝีมือปรุงอาหารในงานเลี้ยงครั้งนี้ คือ แชนนอน แชฟเฟอร์ ที่เคยเตรียมอาหารมื้อกลางวัน เมื่อปี 2552 ส่วนผู้ร่วมคิดเมนู คือ คณะกรรมการร่วมของสภาคองเกรสส์ เพื่อจัดงานเลี้ยงพิธีสาบานตน ที่มีวุฒิสมาชิกชาร์ลส อี ชูเมอร์ ของเดโมแครตจากรัฐนิวยอร์กเป็นประธาน ขณะที่รัฐนิวยอร์ก เพิ่งจะห้ามไม่ให้บรรดาร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด จำหน่ายอาหารที่อุดมไปด้วยแคลอรี                           อีกไม่ช้า ร้านฟาสต์ฟู้ดก็จะถูกสั่งห้ามจำหน่ายอาหารที่มีแคลอรีสูงเหมือนกันหมดทั้งประเทศ และกฎหมายว่าด้วยสุขภาพของประธานาธิบดีโอบามา ก็จะมีข้อห้ามแบบเดียวกัน ซึ่งร้านอาหารบางแห่งไม่เห็นด้วย เช่น ร้านพิซซ่า ระบุว่า พวกเขาจะต้องลำบากในการติดป้ายให้ครอบคลุม เพื่อระบุส่วนผสมของอาหารหลายพันชนิด เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายใหม่     -------------------- (หมายเหตุ : ที่มาภาพ : AFP , EPA , AP)      

No comments:

Post a Comment

Blog Archive