ยุทธการชิงตัวประกันระห่ำโลก(2)

ยุทธการชิงตัวประกันระห่ำโลก(2)
                          สูตรลับการแก้ไขปัญหาตัวประกันของสหรัฐและประเทศตะวันตกมุ่งเน้นความปลอดภัยของตัวประกันเป็นสำคัญ เพียงแต่ในระยะหลังการเจรจาต่อรองเริ่มมีความล้มเหลวมากขึ้น เป็นเหตุให้ตัวประกันชาวต่างชาติหลายคนถูกสังหารอย่างไร้ความปรานีมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะตัวประกันชาวต่างชาติที่ถูกลักพาตัวในอิรักและอัฟกานิสถาน วิธีการนี้ค่อนข้างจะแตกต่างกับแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัสเซียแบบ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" หรือ "หนามยอกเอาหนามบ่ง"  โดยทางการจะยอมเจรจาในช่วงต้นเพื่อถ่วงเวลาก่อนที่จะส่งหน่วยคอมมานโดหรือหน่วยปฏิบัติการพิเศษบุกชิงตัวประกันด้วยกำลังอาวุธ สุดท้ายมักจะลงเอยด้วยการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย แต่ก็สามารถกำจัดผู้ก่อการได้เกือบหมด หรืออย่างน้อยสามารถตัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไปกว่าครึ่ง                           ตัวอย่างของวิธีการแก้ปัญหาแบบ "ตัดไม้ข่มนาม" หรือใช้ความรุนแรงยุติความรุนแรงของแดนหมีขาวรัสเซีย ก็คือคราวเกิดวิกฤติการณ์หน่วยพลีชีพกบฏแบ่งแยกดินแดนเชเชน กว่า 30 คน ที่เรียกตัวเองว่าหน่วยพลีชีพจากกองพลที่ 29 ซึ่งพลพรรคส่วนหนึ่งเป็นแม่ม่ายที่สามีเสียชีวิตจากการสู้รบกับทหารรัสเซียและได้รวมตัวกันตั้งเป็น "หน่วยพลีชีพแม่ม่ายดำ" มีอาวุธปืน และระเบิด รวมทั้งหน้ากากป้องกันไอพิษพร้อมได้จู่โจมบุกยึดโรงละครโอเปร่าในกรุงมอสโกเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2545 จับตัวประกันราว 800-950 คนในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติกว่า 70 คนจาก 14 ประเทศ  ต่อรองให้รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ถอนทหารออกจากเชชเนีย บริเวณเทือกเขาคอเคซัส ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียที่ประกาศแยกตัวออกเป็นเอกราช และให้ยุติสงครามในดินแดนนั้นเนื่องจากรัสเซียไม่ยอมให้ชาวเชเชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสุหนี่ แยกตัวออกไป                           นายปูตินได้ส่งทหารไปปิดล้อมและยอมเปิดเจรจาในช่วงแรกหลอกล่อให้กบฏตายใจ จนฝ่ายกบฏยินยอมปล่อยตัวประกันราว 120-200 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็กและชาวต่างชาติบางคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ จากนั้นนายปูตินก็จัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นอกจากแอบผสมยานอนหลับในอาหารที่จัดให้แก่ฝ่ายกบฏและตัวประกันเพื่อกดประสาทไม่ให้มีความตื่นตัวแล้ว ยังลอบปล่อยก๊าซพิษผ่านทางท่อแอร์เข้าไปที่โรงละคร ก่อนจะส่งทหารบุกตามเข้าไป ปรากฏว่าฝ่ายกบฏตายเรียบ 33 คน รวมทั้งตัวประกัน 129 คนที่เสียชีวิตจากการสูดดมก๊าซพิษ มีแค่รายเดียวเท่านั้นที่ตายจากการปะทะ จนถึงปัจจุบันรัสเซียก็ไม่เคยยอมรับว่าเป็นก๊าซพิษประเภทใดและเหตุใดจึงใช้ในปริมาณมากจนเป็นอันตรายถึงชีวิต     -------------------- (นอกบ้านผ่านเมือง : ยุทธการชิงตัวประกันระห่ำโลก (2) : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์)