สหรัฐฯ ดำเนินการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม เพื่อกดดันให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่สหประชาชาติยืนยัน ข้อตกลงสงบศึกสงครามเกาหลียังคงมีผลบังคับใช้ แม้เกาหลีเหนือจะบอกว่าฉีกสัญญาแล้ว...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า โฆษกของ นายบัน คี มูน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ยืนยันว่า ข้อตกลงสงบสศึกที่ช่วยยุติสงครามเกาหลีเมื่อปี 1953 ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ แม้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสื่อของเกาหลีเหนือจะประกาศว่าข้อตกลงดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้วก็ตามมาร์ติน เนเซอร์กี โฆษกของบัน คี มูน แถลงในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ว่า ข้อตกลงสงบศึกมีข้อกำหนดที่จะไม่อนุญาตให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ประกาศเป็นอิสระจากสัญญาเพียงฝ่ายเดียว และขอให้เกาหลีเหนือ เคารพในข้อกำหนดของข้อตกลงสงบศึกต่อไปด้วยอย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประกาศตัดการสื่อสาร ฮอตไลน์ กับรัฐบาลเกาหลีใต้แล้ว และสื่อของเกาหลีเหนือยังประกาศว่าประเทศได้ฉีกสัญญาสงบศึกดังกล่าวไปแล้ว ทำให้ไม่มีใครคาดเดาสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตรธนาคารแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเกาหลีเหนือ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 4 คน ไม่ให้สามารถทำธุรกรรมใดๆ กับบุคคล, บริษัท หรือองค์กรของสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้รัฐบาลเปียงยางยอมยกเลิกโครงการพัฒนานิวเคลียร์กระทรวงการคลังออกมาตรการลงโทษต่อธนาคาร เอฟทีบี เกาหลีเหนือ รวมถึง นายแพ็ก ซี-บง ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งมีส่วนรับผิดชอบดูแลการผลิตขีปนาวุธ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาตรการลงโทษต่อ นาย ปัค โต-ชอน หัวหน้ากรมอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์, ชู เคียว-ชัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายของพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ และนายโอ คั๊ก-เรียล รองประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติ.
No comments:
Post a Comment