ชาวคริสต์อินเดียร่วมลุ้น มี โป๊ป จากเอเชีย

ชาวคริสต์อินเดียร่วมลุ้น มี โป๊ป จากเอเชีย
สำนักวาติกัน แถลงเลือกวันที่ 12 มี.ค. เป็นวันเริ่มประชุมลับ เพื่อเลือกพระสันตะปาปา แห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก คริสตศาสนิกชนแดนภารตะ ร่วมลุ้นคาร์ดินัล 5 องค์จากเดียอินเดีย...หลังสำนักวาติกัน แถลงเมื่อ 9 มี.ค.เลือกวันที่ 12 มี.ค.เป็นวันเริ่มประชุมลับ (คอนเคลฟ) เพื่อเลือกพระสันตะปาปา “โป๊ป” แห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก แทน “พระสันตะปาปาเกียรติคุณเบเนดิกต์” ที่ประกาศสละตำแหน่งเมื่อ 11 ก.พ. ข่าวระบุความคืบหน้าเมื่อ 10 มี.ค.ว่า เจ้าหน้าที่สำนักวาติกันเข้าติดตั้งปล่องไฟพิเศษบนโบสถ์น้อย “ซิสทีน ชาเพล” เพื่อส่งสัญญาณควันขาวหรือควันดำ ระหว่างการประชุมลับของคาร์ดินัล 115 องค์ บอกสัญลักษณ์ว่าได้และไม่ได้โป๊ปองค์ใหม่ นอกเหนือจากติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณป้องกันการดักฟังและใช้โทรศัพท์มือถือส่วนอองเดร แวงต์ ทรัวส์ พระคาร์ดินัลชาวฝรั่งเศสเผยว่า มีตัวเต็งอาจได้รับเลือกเป็นโป๊ปราว 6 องค์ด้วยกัน โดยคาร์ดินัลที่ได้รับคาดหมายได้รับเลือกก็มีรวมทั้งแองเจโล สโกลา อาร์คบิชอพแห่งมิลาน คาร์ดินัลมาร์ค โอลเลตแห่งแคนาดาและคาร์ดินัลโอดิโล เชอร์เรอร์แห่งบราซิล ขณะที่จอห์น อัลเลน ผู้เชี่ยวชาญกิจการวาติกันของนิตยสาร “แนชนัล คาทอลิก รีพอร์ตเตอร์” ของสหรัฐฯเผยว่า ปัญหาของคอนเคลฟครั้งนี้คือไม่มีรายชื่อตัวเต็งโดดเด่นเหนือคนอื่นๆเหมือนชื่อโจเซฟ รัตซิงเกอร์ กระทั่งได้เป็นโป๊ปเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อปี 2548ทั้งนี้ ในคาร์ดินัล 115 องค์ผู้มีอายุไม่เกิน 80 ปี มีเพียงอิตาลี สหรัฐฯและเยอรมนีที่มีพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิ์เลือกโป๊ปมากกว่าตัวแทนชาติอื่นๆ ส่วนภูมิภาคเอเชีย มีคาร์ดินัลเข้าร่วม 9 องค์ในจำนวนนี้เป็นคาร์ดินัลจากอินเดีย 5 องค์ด้วยความที่อินเดียมีชาวคริสต์อยู่ราว 17 ล้านคน มากเป็นลำดับ 2 ของเอเชียรองจากฟิลิปปินส์ ทำให้คริสตศาสนิกชนแดนภารตะ อยากเห็นพระคาร์ดินัลจากเอเชียได้เป็นโป๊ป แม้คาร์ดินัลจากอินเดียไม่มีชื่อติดกลุ่มตัวเต็งก็ตาม และมีหลุยส์ อันโตนิโอ ทาเกล อาร์คบิชอพ (หัวหน้าบาทหลวง) จากฟิลิปปินส์ เป็นชื่อที่ถูกเอ่ยถึงมากสุดในฐานะตัวเต็งจากเอเชีย ขณะที่อาร์คบิชอพ 2 ท่านของอินเดียคือออสวัลด์ กราเซียส อาร์คบิชอพแห่งนครมุมไบ กับ เทเลสฟอร์ ท็อพโพ อาร์คบิชอพแห่งเมืองปัฏนะ ยังไม่แน่ใจว่าตัวเต็งจากเอเชียจะได้รับเลือกและเห็นว่าถิ่นกำเนิด ไม่ควรเป็นปัจจัยหลักในการเลือกโป๊ปด้านคาร์ดินัลมัลคอล์ม รันจิต จากศรีลังกา วัย 65 ปี อายุมากกว่าอาร์คบิชอพทาเกล 10 ปี กลายเป็นม้ามืดอีกหนึ่งท่านที่สื่อให้ความสนใจว่าอาจได้รับเลือกด้วย เพราะเคยรับหน้าที่สำคัญในวาติกันไม่ว่าการรับหน้าที่ควบคุมดูแลพิธีสวดเมื่อปี 2548 และเป็นทูตของอดีตโป๊ปเบเนดิกต์ที่ 16 ประจำอินโดนีเซียและติมอร์ตะวันออก.