Wednesday, March 31, 2010

มาเลย์ชูแผนปฏิรูป นำพาสู่ชาติพัฒนาแล้วอีก10ปีหน้า

มาเลย์ชูแผนปฏิรูป นำพาสู่ชาติพัฒนาแล้วอีก10ปีหน้า

นาจิบ ราซักนาจิบ ราซัก ผุดแผนปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ต่อหัวประชากร 2 เท่าใน10ปีข้างหน้า พร้อมดันประเทศสู่ ชาติพัฒนาแล้ว ภายในปี2563...สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีวัย 56ปีของมาเลเซีย คิดการใหญ่มุ่งปฏิรูปเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ต่อหัวประชากร 2 เท่าใน10ปี ยกเครื่องการพัฒนาแต่เดิมที่เน้นเอื้อประโยชน์ชนชาติมาเลย์ที่ใช้มาร่วม40ปี มายึดหลักตามความจำเป็นและเหมาะสมแทน เพื่อนำพาประเทศขึ้นชั้นเป็น ชาติพัฒนาแล้ว ภายในปี2563 นายราซัก เผยแผนโรดแม็ปดังกล่าว ชื่อว่ารูปแบบเศรษฐกิจใหม่ (New Economic Model) ขณะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีประชุมด้านการลงทุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. และถ้าหากมีการดำเนินการจริง จะถือว่าเป็นการขับเคลื่อนนโยบายที่ชัดเจนที่สุดของเขา นับแต่ขึ้นสู่อำนาจ เมื่อ เม.ย.ปีที่แล้ว พวกเราต้องการเห็นชาวมาเลเซีย มีรายได้ต่อหัวต่อปีเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 15,000 ดอลลาร์ในอีก10ปีข้างหน้า การจะบรรลุเป้าหมาย ทำได้ด้วยการยกระดับทักษะฝีมือและการศึกษาของคนในชาติ นายราซัก เสริม ทั้งนี้ แผนโรดแม็ปฉบับสมบูรณ์ จะประกาศในเดือนมิ.ย. เมื่อรัฐบาลประเมินกระแสตอบรับจากภาคประชาชนแล้ว การผลักดันแผนปฏิรูป นายราซัก หนีไม่พ้นต้องเผชิญแรงต้านทางการเมืองภายในพรรคองค์กรสหชาติมาเลย์(อัมโน )ที่ซึ่งคงไม่กล้าเป็นปรปักษ์กับชนชาติมาเลย์ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อการเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นในปี 2556แผนข้างต้น ยังถูกมองเป็นแค่เครื่องมือเพื่ออุ้มสมกันทางการเมือง ผู้ได้ประโยชน์จริงจึงเป็นแค่กลุ่มคนรวยและชาวมาเลย์ผู้เข้าถึงแหล่ง ทรัพยากรรัฐได้ดีกว่าคนอื่น นักวิเคราะห์ทางการเมืองบางคน ยังตั้งคำถามถึงความสามารถผลักดันแผนปฏิรูปของนายราซักว่าจะประสบผลมากน้อย แค่ไหนในห้วงเวลาที่มาเลเซียกำลังเผชิญปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติและ ศาสนา อีกทั้งยังมีตัวอย่างจากกรณีแผนเลิกทุ่มเงินอุ้มราคาน้ำมันกับการเก็บภาษี สินค้าและบริการของรัฐบาลก่อนหน้านี้ ต้องถูกเก็บขึ้นหิ้ง เพราะสาธารณะไม่เอาด้วยมาแล้ว ด้านเดวิด กิว นักวิเคราะห์การเมืองแห่งศูนย์ที่ปรึกษาความเสี่ยง ยูเรเซียกรู๊ป ระบุว่าโอกาสที่นายราซักจักบรรลุผล มีเพียงต้องจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด เพื่ออาศัยเสียงประชาชนมาสนับสนุน แต่ข้อนี้ไม่มีใครรับประกันได้ว่าพรรคอัมโนจะคว้าเก้าอี้ส.ส.ได้มากเท่าเดิม อีกหรือไม่ เพราะผลเลือกตั้งเมื่อปี2551 บอกชัดอยู่แล้วว่าแม้อัมโนจะชนะเลือกตั้ง แต่ก็สูญเสียเก้าอี้ส.ส.ให้ฝ่ายค้านในจำนวนที่มากเป็นประวัติการณ์ นายราซัก ประกาศแผนปฏิรูปขึ้นในช่วงที่มาเลเซีย กำลังสูญเสียสถิติครองเม็ดเงินลงทุนต่างชาติให้กับชาติอื่นๆในภูมิภาค อีกทั้งยังเคยครองส่วนแบ่งเงินทุนต่างชาติที่ไหลสู่ตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ อาเซียนรวมทั้งไทย มาเลเซียและอินโดนีเซีย มากถึงกึ่งหนึ่ง แต่ด้วยการแข่งขันที่มากขึ้นทำให้ครองส่วนแบ่งเหลือแค่ราว1ใน 3.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive