Friday, November 9, 2012

'โอบามา'แถลงนโยบายศก. ย้ำขึ้นภาษีคนรวยสู้วิกฤติผาการคลัง

'โอบามา'แถลงนโยบายศก. ย้ำขึ้นภาษีคนรวยสู้วิกฤติผาการคลัง
Pic_305089 ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา แถลงการณ์ประเด็นเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก ย้ำต้องขึ้นภาษีคนรวย เพื่อลดขาดดุลงบประมาณ และสู้วิกฤติหน้าผาการคลัง...
สำนักข่าวต่าง ประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา มีแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กล่าวย้ำว่า ชาวสหรัฐฯ ผู้มีรายได้สูง จำเป็นต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อลดภาวะขาดดุลงบประมาณของประเทศ รวมถึงมีแผนขยายระยะเวลามาตรการลดภาษีคนชั้นกลาง ซึ่งกำลังจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นปีนี้ และเตรียมหารือกับแกนนำพรรครีพับลิกันในสัปดาห์หน้า
โอบามา แถลงการณ์ที่ห้องตะวันออกของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า เขาได้รับมอบอำนาจจากประชาชนให้ดำเนินแผนเพิ่มภาษีผู้ที่มีรายได้มากกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เพื่อลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
"เมื่อคืนวันอังคาร เราได้คำตอบแล้วว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางของผม และงานของเราตอนนี้คือ การได้เสียงข้างมากในสภาฯ เพื่อสะท้อนให้เห็นความต้องการของชาวอเมริกัน ผมมีปากกา และผมพร้อมที่จะลงนามรับรองกฎหมายนี้ตอนนี้เลย" โอบามา กล่าว

ผมมีปากกา
ผมมีปากกา
โอ บามา ยังเผยว่า ได้เชิญแกนนำของพรรครีพับลิกัน รวมถึง นายจอห์น โบห์เนอร์ โฆษกสภาผู้แทนราษฎร มาร่วมหารือที่ทำเนียบขาวในสัปดาห์หน้า พร้อมย้ำว่า เขาเปิดกว้างสำหรับการประนีประนอมและความคิดใหม่ๆ แต่จะไม่ยอมรับมาตรการใดที่ไม่สมดุลเด็ดขาด
"ถ้าเราต้องการลดการขาด ดุลจริงๆ เราต้องต้องลดรายจ่ายด้วยรายได้ และนั่นหมายถึงการร้องขอให้ชาวอเมริกันผู้มีรายได้สูงจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นอีก เล็กน้อย"
นอกจากนี้ โอบามา ยังเรียกร้องให้สภาคองเกรสดำเนินการเพื่อขยายเวลามาตรการลดภาษีผู้มีรายได้ ต่ำกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการลดภาษีที่จะหมดอายุในช่วงปลายปีนี้โดยทันที เพื่อช่วยชาวอเมริกันร้อยละ 98 จากวิกฤติงบประมาณแผ่นดิน หรือหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปี 2012
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าการแถลงของโอบามา นายจอห์น โบห์เนอร์ ออกมากล่าวแสดงความไม่ยอมรับมาตรการขึ้นภาษีผู้มีรายได้สูง ระบุว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และเป็นการลดขีดความสามารถในการสร้างงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันต้องการ รวมทั้งเสนอให้รีบหามาตรการอุดช่องโหว่ในกระบวนการเก็บภาษีดีกว่า

จอห์น โบห์เนอร์
จอห์น โบห์เนอร์
ทั้ง นี้ สหรัฐฯ กำลังจะเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหม่ ที่เรียกว่า หน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ประกอบด้วย การหมดอายุพร้อมๆ กันของมาตรการลดภาษี ทั้งสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และ บารัค โอบามา รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์, การเริ่มตัดค่าใช้จ่ายภาครัฐมูลค่าราว 1 แสนล้านดอลลาร์ ในวันที่ 1 ม.ค. 2013 และการหมดอายุลงของการลดอัตราภาษีค่าจ้าง ของพนักงานบริษัทลงมูลค่าราว 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า หากไม่ได้รับการแก้ไข จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยเข้าสู่ภาวะตกต่ำ และอัตราว่างงานจะพุ่งจากร้อยละ 7.9 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 9.1

No comments:

Post a Comment

Blog Archive