จีนตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพกองทัพ หวังเป็นมหาอำนาจทางทะเล
ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน แถลงนโยบายต่อต้านการทุจริต
พร้อมจัดระเบียบกองทัพให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
เพื่อการเป็นประเทศมหาอำนาจทางทะเล...
นายหู จิ่นเทา
ประธานาธิบดีจีน เปิดการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18
ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 7 วัน ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง ตั้งแต่วันที่ 8
พ.ย. ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่ตัวแทนพรรค 2,309 คน
จากจำนวนสมาชิกพรรคกว่า 82 ล้านทั่วประเทศ
เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
และนายหูได้แถลงนโยบายต่อต้านการทุจริตซึ่งเป็นปัญหาบ่อนทำลายพรรครัฐบาลใน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา
รวมถึงเสนอให้ปรับแผนเศรษฐกิจและปฏิรูปทางการเมืองให้มีความโปร่งใสยิ่งขึ้น
ขณะที่นายหูจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไปจนถึงเดือน มี.ค.2556 และนายสี
จิ้นผิง รองประธานาธิบดี จะขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลแทน
แต่คณะกรรมาธิการบริหารพรรคชุดปัจจุบันจะยังดำรงตำแหน่งต่อไป
เพื่อรับมือกับความไม่สงบที่เกิดขึ้นในสังคมจีน
นอก
จากนี้นายหูระบุว่า ทางพรรคจะจัดระเบียบกองทัพให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
เพื่อนำจีนสู่การเป็นประเทศมหาอำนาจทางทะเล
พร้อมยืนยันว่าจีนยึดหลักสันติวิธีในการพัฒนาศักยภาพของกองทัพ
แต่ขณะเดียวกัน นายหูก็ได้ประกาศเตือนรัฐบาลเกาะไต้หวัน
ซึ่งจีนถือเป็นดินแดนในความปกครองของจีน
มิให้เคลื่อนไหวสนับสนุนการประกาศอิสรภาพแยกตัวจากจีนแผ่นดินใหญ่
ทั้งยังระบุว่าการแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลจีนจะส่งผลกระทบต่อไต้หวัน
ในหลายด้าน
โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจซึ่งจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของไต้หวัน
วัน
เดียวกัน คณะกรรมาธิการประจำสภาคองเกรสของสหรัฐฯ
ด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯและจีน เผยแพร่รายงานประจำปี 2555
ระบุว่า
กองทัพจีนมีแผนพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และติดตั้งจรวดขีปนาวุธนำวิถีบนเรือรบ
จีน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความมั่นคงของประชาคมโลก
และเสถียรภาพทางทะเลในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลจีนกรณีแย่งชิงหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก
ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลจีนให้ดำเนินนโยบายทางทะเลด้วยแนวทางสันติ
วิธีตามที่นายหูแถลงต่อที่ประชุมพรรค โดยระบุว่า
จีนและญี่ปุ่นต่างมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางทะเล
เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงในเอเชีย
ด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนระบุว่า
ความไม่พอใจของประชาชนจีนที่มีต่อปัญหาทุจริตและช่องว่างระหว่างคนรวยกับคน
จนทวีความรุนแรงขึ้นทุกที
ส่งผลให้ผู้นำพรรคคนใหม่จะต้องผลักดันการปฏิรูปการปกครองโดยเร็วที่สุด.
No comments:
Post a Comment