2 ก.พ.56 ผู้ประท้วงที่โกรธแค้นรุมขว้างปาก้อนหินและระเบิดเพลิงเข้าไปยังประตูทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไคโรเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดไฟไหม้ในสวนของทำเนียบเล็กน้อย และตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเพื่อสลายฝูงชน แต่ผู้ประท้วงก็ขว้างปาแก๊สน้ำตากลับเข้าไปในทำเนียบ และตำรวจจุดไฟเผาเต้นท์ของผู้ประท้วงที่ตั้งใกล้กับทำเนียบและยังจับกุมชายคนหนึ่งก่อนถอดเสื้อผ้าและทุบตีแล้วควบคุมตัวขึ้นรถหุ้มเกราะไป เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 รายและผู้บาดเจ็บเกือบ 80 คนจากการปะทะที่ยืดเยื้อหลายชั่วโมง ทั้งนี้ การประท้วงเมื่อวานยืดเยื้อเป็นวันที่ 8 นับตั้งแต่เริ่มขึ้นเมื่อศุกร์ที่แล้ว เดิมเริ่มขึ้นอย่างสงบโดยมีประชาชนหลายพันคนเดินขบวนตามท้องถนนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีจัดตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ แต่บางคนก็เรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง จนกระทั่งเกิดการปะทะที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้ประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ออกมาประกาศว่ากองกำลังความมั่นคงจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดที่สุดเพื่อบังคับใช้กฎหมายและปกป้องสถาบันของรัฐ และกล่าวโทษว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดเป็นเพราะศัตรูการเมืองของเขาปลุกปั่นให้เกิคดวามรุนแรง นอกจาก กรุงไคโรแล้ว ยังมีการชุมนุมในอีกหลายเมือง ทั้งเมืองอเล็กซานเดรีย และอิสมาลิยา โดยเฉพาะจุดที่มีผู้ชุมนุมมากที่สุดอยู่ที่เมืองพอร์ต ซาอิด หลายพันคนเดินขบวนเรียกร้องให้โค่นล้มรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การประท้วงเหล่านี้เริ่มต้นจากวันครบรอบ 2 ปีของการเดินขบวนขับไล่ผู้นำเผด็จการฮอสนี มูบารัก พ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา บวกกับวันเดียวกันศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิตชาวเมืองพอร์ต ซาอิด 21 คน ในคดีร่วมก่อจลาจลในสนามฟุตบอลที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 74 คนเมื่อปีที่แล้ว ทำให้กระแสโกรธแค้นลุกลามบานปลายกลายเป็นจลาจล และการเสียชีวิตของผู้ประท้วงรายล่าสุดเมื่อวานทำให้ยอดผู้เสียชีวิตตลอด 8 วันเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 60 รายและผู้บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
No comments:
Post a Comment