วุฒิสภามะกันค้านลงนามสนธิสัญญาผู้พิการ

วุฒิสภามะกันค้านลงนามสนธิสัญญาผู้พิการ
วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติค้านการลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยผู้พิการแห่งสหประชาชาติ ด้วยคะแนน 62 ต่อ 38 เสียง ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่อาจลงนามรับรองสนธิสัญญาสากลฉบับดังกล่าวได้...ที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติค้านการลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยผู้พิการแห่งสหประชาชาติ ด้วยคะแนน 62 ต่อ 38 เสียง เมื่อ 5 ธ.ค. ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่อาจลงนามรับรองสนธิสัญญาสากลฉบับดังกล่าวได้ โดยผู้ที่คัดค้านส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน ฝ่ายค้านสหรัฐฯ ขณะที่สมาชิกสหประชาชาติ 155 ประเทศทั่วโลกลงนามรับรองสนธิสัญญาดังกล่าวไปแล้ว นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงระบุว่า มติของวุฒิสภาสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อผู้พิการทั่วโลกมิให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิด้านสาธารณูปโภค และไม่มีการกำหนดบทลงโทษผู้ละเมิดสิทธิผู้พิการวันเดียวกัน วารสารด้านการแพทย์ในอังกฤษ “บริติช เมดิคัล เจอร์นัล” เผยผลวิจัยความเกี่ยวพันระหว่างสถิติผู้พิการและสถิติทารกคลอดก่อนกำหนดในอังกฤษและสหรัฐฯ ปี 2538-2548 จัดทำโดยคณะแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน พบว่า ทารกที่คลอดขณะมารดามีอายุครรภ์ระหว่าง 22-27 สัปดาห์ มีอัตรารอดชีวิตเพิ่มเป็น 19 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2548 ซึ่งสูงขึ้นจากผลสำรวจเดิมในปี 2538 เป็นผลจากวิทยาการและเทคโนโลยีการแพทย์ที่พัฒนาขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้สถิติผู้พิการใน 2 ประเทศ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้น เพราะทารกที่คลอดก่อนกำหนดส่วนใหญ่ไม่สามารถพัฒนาร่างกายให้สมบูรณ์เทียบเท่ากับทารกที่อยู่ในครรภ์ครบ 9 เดือน แสดงให้เห็นว่าสถิติผู้พิการที่เพิ่มขึ้นในอังกฤษและสหรัฐฯมีความเกี่ยวโยงกับสถิติทารกที่คลอดก่อนกำหนด.