Saturday, December 1, 2012

โอบามาเตือนภาวะเงินฝืดช่วงวันหยุดคริสต์มาส

โอบามาเตือนภาวะเงินฝืดช่วงวันหยุดคริสต์มาส
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนถึงสภาวะเม็ดเงินไม่สะพัดในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสนี้ หากการต่ออายุการลดภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และ เพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีคนรวย ไม่ผ่านสภาคองเกรสของสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้ทั้งพรรคเดโมแครตของเขาและรีพับลิกัน ร่วมมือกันผ่านร่างกฏหมายดังกล่าว...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนประชาชนอาจจะเกิดภาวะการเงินฝืด เม็ดเงินไม่สะพัดในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสนี้ หากสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ไม่ผ่านร่างกฏหมายการต่ออายุการลดภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และ เพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีคนรวยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทาง ผู้นำสหรัฐฯได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานของเล่นในรัฐ เพนซิลวาเนีย ตามแผนการเดินทางหาเสียงสนับสนุนร่างกฏหมายการเงินฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการปรับลดงบประมาณรายจ่าย การลดภาษีในกลุ่มชนชั้นกลาง หรือกลุ่มที่มีรายได้ต่อครัวเรือนไม่เกิน 50,000 เหรียญสหรัฐ ต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 7,500,000 บาท ซึ่งคิดเป็นจำนวนประชากรร้อยละ 98 ของประชากรทั้งหมด ขณะที่อีกร้อยละ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูงกว่า 7,500,000 บาท ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อให้ในภาพรวม รัฐบาลจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านล้านล้านเหรียญสหรัฐโดยระหว่างการตรวจเยี่ยม โอบามา กล่าวว่านี้เป็น โรงงานแห่งนี้เป็นประเภทของโรงงานที่ได้เลือกจะผลิตสินค้าเพื่อชนชั้นกลางและมันคงจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวด ถ้าชนชั้นกลางชาวอเมริกันต้องเผชิญกับภาษีที่เพิ่มขึ้น ชนชั้นกลางเป็นฐานลูกค้ารายใหญ่ในการบริโภคสินค้าและบริการในช่วงเทศกาลคริสต์มาส หากว่าพวกเขาต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ย่อมทำให้ไม่เกิดการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลแน่นอนนอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่าทั้งพรรคเดโมแครตของเขาและรีพับลิกัน ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภา จำเป็นต้องร่วมมือกันในการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้สหรัฐฯ พ้นจากภาวะผาการคลังแต่ถึงกระนั้น ทาง จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ก็ได้แสดงท่าทีคัดค้านต่อนโยบายดังกล่าว พร้อมกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะนโยบายการเพิ่มภาษีคนรวย เช่นเดียวกับบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ต่างออกมาแสดงความวิตกว่านโยบายดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2556 จะทำให้สหรัฐฯ กลับสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive